เมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (23ม.ค.) ณ ที่ทำการตำรวจภูธรภาค 8 เว็บสล็อตแตกง่าย อ.ถลาง จ.ภูเก็ต พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 เป็นประธานในพิธีแจกจ่ายอาวุธปืนพกประจำกายให้แก่ข้าราชการป้องกันปราบปราม ฝ่ายสืบสวน และหน่วยปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจภูธรภาค 8 โดยมี รองผู้บัญชาตำรวจภูธรภาค 8 ผู้บังคับการตำรวจภูธรในสังกัด ภาค 8 เข้าร่วม
ด้วยสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้จัดทำโครงการ จัดหาอาวุธปืนพกประจำกายให้แก้ข้าราชการตำรวจสายป้องกันปราบปราม สายสืบสวน และสายปฏิบัติการพิเศษ
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้าราชการตำรวจสายปฏิบัติการมีอาวุธปืนพกสั้นที่ทันสมัย เป็นแบบมาตรฐานสากล ไว้ใช้ในการสืบสวนปราบปราม รวมทั้งเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ข้าราชการตำรวจในการปฏิบัติงาน
ซึ่งโครงการดังกล่าวคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ 12 พ.ค.2558 สนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2558 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน หรือ จำเป็น จำนวน 990 ล้านบาท จัดหาอาวุธปืนพกกึ่งอัตโนมัติ ขนาด 9 มม. พร้อมอุปกรณ์,ซองบรรจุกระสุน,ซองสำรอง 2 ซอง,ซองปืนชนิดป้องกันการแย่ง,เข็มขัด,กระเป๋าใส่ซองบรรจุกระสุน,กุญแจมือพร้อมซอง จำนวน 55,000 กระบอก ต่อมาสำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับการจัดสรรงบประมาณเพิ่มเติม จึงได้จัดทำการจัดหาอาวุธปืนพกประจำกาย พร้อมอุปกรณ์ในคราวเดียวกันรวมทั้งสิ้น 55,150 กระบอก
สำหรับ ตำรวจภูธรภาค 8 ได้รับการจัดสรรอาวุธปืนพกประจำกาย ขนาด 9 มม. พร้อมอุปกรณ์เพื่อแจกจ่ายให้กับหน่วยงานสายปฏิบัติการ จำนวน 3,466 กระบอก และได้มีการแจกจ่ายให้ข้าราชการตำรวจสายปฏิบัติการเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 กล่าวว่า สำหรับอาวุธปืนที่นำมามอบในครั้งนี้เกิดขึ้นจากแนวความคิดของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัย ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของอาวุธประจำการของข้าราชการตำรวจเนื่องจากก่อนหน้านี้ข้าราชการตำรวจมีอาวุธประจำการเป็นปืนลูกโม่ซึ่งใช้กันมาเป็นเวลานาน จึงได้มีการขออนุมัติงบกลางเพื่อข้อจัดซื้ออาวุธปืนจำนวน 55,150 กระบอก ยี่ห้อ ซิกซาวเออร์ รุ่น P320 SP และได้มีการแจกจ่ายให้กับตำรวจทั่วประเทศ ในส่วนของตำรวจภูธรภาค 8 นั่นได้ทั้งหมด 9 หน่วย จำนวน 3,466 กระบอก และได้มีการมอบในวันนี้ เพื่อนำไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ในการป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
ชาวบ้านร่วมกันพัฒนา คลองบ้านนาหนาน เตรียมเปิดให้บริการนักท่องเที่ยว ล่องเรือแคนูชมธรรมชาติ
วันที่ 23 มกราคม 2561 นายม่าแอน ลำพล ผู้ใหญ่บ้านม.7 บ้านนา ต.ห้วยน้ำขาว อ.คลองท่อม จ.กระบี่
พร้อมด้วยผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ชาวบ้าน ร่วมกัน กำจัดขยะ ในคลองบ้านนาหนาน ระยะทางกว่า 4 กิโลเมตร
ซึ่งเป็นคลองสายสำคัญ อยู่ในพื้นที่รอยต่อม.5 บ้านคลองแค เพื่อเตรียมเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ล่องเรือแคนนู และล่องแพชมธรรมชาติในลำคลอง หลังมีการสำรวจพบว่า คลองดังกล่าว ยังคงอุดมสมบูรณ์ และมีโค้งเคี้ยวกว่า 50 โค้ง ท้าทายนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบการผจญภัย นอกจากนี้มีพันธุ์ไม้ และสัตว์ป่าชายเลนอีกหลายชนิด และเป็นแหล่งอาศัย ปูดำ กุ้ง และปลา นานาชนิด ที่เป็นแหล่งทำมาหากินของชาวประมง โดยชาวบ้านในชุมชน จะร่วมกันบริหารจัดการ
นายม่าแอน กล่าวว่า คลองบ้านนาหนาน เป็นคลองที่เชื่อมระหว่างน้ำจืดและน้ำเค็ม ระยะทางประมาณ 4
กม.ช่วงน้ำทะเลขึ้นก็จะเป็นน้ำเค็ม พอน้ำลง น้ำจืดจากด้านบนก็จะไหลลงมาแทน แต่ก็ยังมี ปลาบางชนิดอาศัยอยู่ได้ โดยเฉพาะกุ้งก้ามกราม จึงเป็นแหล่งทำมาหากินของชาวบ้านในพื้นที่มาช้านาน แต่ที่ผ่านมาสภาพป่าสองข้างทาง ปกคลุมลำคลอง ทำไม่สามารถมองเห็นลำคลองตลอดสายได้ จึงได้ร่วมกับชาวบ้านช่วยกันสำรวจ กำจัดขยะ และพัฒนาลำคลอง โดยการล่องแพสำรวจ พบว่ามีความสวยงาม และสมบูรณ์ เหมาะแก่การท่องเที่ยวล่องคลองชมธรรมชาติ แต่บางจุดก็มีความคับแคบ แพไม่สามารถข้ามได้ จึงมีการประชุมหารือร่วมกับชาวบ้านในชุมชนมีมติร่วมกันว่า จะมีการการนำเรือแคนนูมา บริการนักท่องเที่ยว ล่องคลอง ชมธรรมชาติ โดยไปสิ้นที่สุดที่ท่าเรือ ท่าหนาน ม.8 ต.ห้วยน้ำขาว ก่อนที่จะเดินทางต่อไปยังแหล่งน้ำพุร้อนเค็ม แหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่ โดยให้ชาวบ้านร่วมกันพัฒนา และบริหารจัดการกันเอง ซึ่งได้งบจากโครงการประชารัฐ มาจัดหาซื้อเรือแคนนู คาดว่าจะเปิดให้บริการได้อย่างเป็นทางการภายใน เดือนกุมภาพันธ์นี้
ผู้มาเยือนภายในประเทศทุกคนต้องมีแอปหมอชนะซึ่งเปิดการแชร์ตำแหน่งขณะที่พวกเขาอยู่ในภูเก็ต คำสั่งดังกล่าว และต้องแสดงเอกสารที่จำเป็นต่อเจ้าหน้าที่ ณ จุดตรวจจึงจะได้รับอนุญาต ม็อบรถใหม่มาบรรจบกันของรถยนต์และมอเตอร์ไซค์ในสถานที่ชุมนุม จากนั้นแห่ไปยังเป้าหมายทางการเมืองที่ส่งเสียงดังและการจราจรติดขัดตลอดทาง เมื่อวานนี้ ผู้ประท้วงรวมตัวกันที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย เวลาประมาณ 13.00 น. จากนั้นจึงเคลื่อนขบวนไปที่สำนักงานของพรรคร่วมต่างๆ ที่สอดคล้องกับนายกรัฐมนตรีประยุทธ์
ผู้ชุมนุมประท้วงรถยนต์ได้ส่งจดหมายถึงพรรคประชาธิปัตย์ โดยระบุว่า การจัดการกับโควิด-19 ของรัฐบาลนั้นไร้ความสามารถ และนำไปสู่ความทุกข์ทรมานที่ไม่จำเป็นสำหรับประชาชนและเศรษฐกิจของประเทศไทย ต่อจากนั้น ผู้ประท้วงเทแป้งมันสำปะหลังลงบนพื้นสำนักงานใหญ่พลังประชารัฐ ซึ่งเป็นองค์ประกอบที่แข็งแกร่งที่สุดของพันธมิตรฯ พวกเขามอบถุงยังชีพอีก 2 ถุงให้กับเจ้าหน้าที่ของพรรคเพื่อเน้นย้ำถึงบุคคลที่ไม่เหมาะซึ่งถูกกล่าวหาว่าเป็น “ประวัติศาสตร์ที่ผิดจรรยาบรรณ” สล็อตแตกง่าย